อันดับ 10 ปราสาทนครวัด (Angkor Wat)
ปราสาทนครวัด (Angkor Wat) เป็นเทวสถานฮินดูลัทธิไวษณพนิกาย ที่นับถือพระวิษณุเป็นเทพเจ้าสูงสุด สร้างโดยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 เมื่อช่วงครึ่งแรกคริสต์ศตวรรษที่ 12 เพื่ออุทิศถวาย แด่องค์พระวิษณุที่พระองค์เชื่อว่า เป็นร่างของพระองค์เอง ในขณะที่ยังมีพระชนม์ชีพอยู่ และหลังจากสิ้นพระชนม์ไปแล้ว ศาสนสถานแห่งนี้ ก็จะเป็นพระราชสุสานที่พระองค์ จะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับองค์พระวิษณุ
อันดับ 9 The Temple of Srirangam
วัดนี้อยู่ในประเทศอินเดีย เมือง Tiruchirapalli หรือ Trichy เป็นวัดของศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในโลก
อันดับ 8วิหารฮัรมันดิร ซาฮิบ
วิหารฮัรมันดิร ซาฮิบ หรือ วิหารทองคำ เป็นวิหารที่สำคัญที่สุด ในศาสนาซิก ตั้งอยู่ที่เมืองอัมริตสาร์ เมืองหลวงของ แคว้นปัญจาบ ทางภาคเหนือของประเทศอินเดีย
วิหารฮัรมันดิร ซาฮิบ หรือ วิหารทองคำ เป็นวิหารที่สำคัญที่สุด ในศาสนาซิก ตั้งอยู่ที่เมืองอัมริตสาร์ เมืองหลวงของ แคว้นปัญจาบ ทางภาคเหนือของประเทศอินเดีย
อันดับ 7 บุโรพุทโธ อินโดนิเซียบุโรพุทโธ ( Borobudur ) พุทธสถานอันศักดิ์สิทธิ์ ที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 8-9 โดยกษัตริย์ราชวงศ์ไศเลนทร ตั้งอยู่บนเนินสูงของเกาะชวาภาคกลาง ห่างจากเมือง ยอกยากาตาร์ ( Yogyakata ) ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 40 กิโลเมตร ถือเป็นโบราณสถาานขนาดใหญ่ และเป็นศูนย์รวมแห่งความภาคภูมิใจของชาวอินโดนิเซีย และชาวพุทธทุกคน ซึ่งหวังจะไปแสวงบุญสักครั้งในชีวิต เจดีย์บุโรพุทโธรูปทรงดอกบัวนี้ก่อสร้างตามแบบศิลปะฮินดู-ชวา หรือศิลปะชวาภาคกลางที่ผสมผสาานระหว่างอินเดียและอินโดนีเซีย ได้อย่างกลมกลืนที่สุด บุโรพุทโธเปรียบเป็นศูนย์กลางของจักรวาล
อันดับ 6 วัดจิออนอิน Chion-in Temple เกียวโต ญี่ปุ่น
วัดจิออนอิน (Chion-in temple) พื้นที่ของวัดนั้ใหญ่โตอลังการ แทรกตัวอยู่ในเขาเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นมาก วัดนี้สร้างในปี ค.ศ. 1234 เพื่อเป็นเกียรติให้กับผู้ก่อตั้ง ศาสนาพุทธนิกายโจโด เป็นนักบวช ชื่อว่า Honen
อันดับ 5Temple of Heaven ปักกิ่ง ประเทศจีน
หอฟ้าเทียนถานเป็นสถานบวงสรวงเทพยดาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งยังคงรักษาไว้ในจีน ประกอบด้วยตําหนักฉีเหนียนเตี้ยน ตําหนักหวง ฉงอี่ และลานหยวนชิว เป็นต้น เทียนถานตั้งอยู่ทางทิศใต้ของกรุงปักกิ่ง มีเนื้อที่ทั้งหมด ๒๗๓ เฮกต้าร์ เป็นสถานซึ่งจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิงใช้เป็นที่บวงสรวงเทพยดา ในระยะย่างเข้าฤดูหนาว ถึงเดือนอ้ายตามจันทรคติทุกปี พระจักรพรรดิจะเสด็จไปประกอบ พระราชพิธีบวงสรวงที่นั่นเพื่อให้การเก็บเกี่ยวได้ผลอุดม
อันดับ 4 พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า
พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า เชื่อกันว่าเป็นมหาเจดีย์ที่บรรจุ พระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น ตามตำนาน เจดีย์ชเวดากองนั้นสร้างเมื่อง 2,500 ปีที่แล้ว แต่นักโบราณคดีเชื่อกันว่าสร้างระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 6-10 สร้างโดยชาวมอญ ตามตำนานนั้นเริ่มจากว่า มีสองพี่น้อง พ่อค้า 2 คน ได้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้ามา พระองค์จึง ประทานพระเกศามา 8 เส้น พระเจดีย์ได้ถูกทิ้งร้าง จนมาถึงคริสต์ศตวรรษที่ 14 รัชสมัยพระเจ้าพินยาอู ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระเจดีย์ใหม่สูง 18 เมตร พระเจดีย์ได้ถูกซ่อมแซมมาเรื่อยมา จนมามีความสูง 98 เมตรใน ปัจจุบัน บนยอดสุดของพระเจดีย์ มีเพชรอยู่ 5,448 เม็ด โดยเฉพาะ ชั้นข้างบนสุดมีเพชรเม็ดใหญ่อยู่ 72 กะรัต และทับทิม 2,317 เม็ด
อันดับ 3 วัดฮินดูพรัมบานัน ประเทศอินโดนีเซีย
วัดฮินดูพรัมบานัน : Prambanan Temple พรัมบานันเป็นวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินโดนีเซียหรือจะเรียกว่า ใหญ่ที่สุดในเอเซียอาคเนย์เลยก็ได้ ตั้งอยู่ที่เมืองพรัมบานัน ตอนกลางของเกาะชวา และอยู่ไม่ไกลจากยอกยากาตาร์มากนัก วัดถูกสร้างขึ้นเมื่อราวปี พ.ศ. 1340 โดยสันนิษฐานว่า น่าจะสร้างขึ้นในสมัยของกษัตริย์ Rakai Pikatan จากราชวงศ์ Mataram ที่ 2 หรืออาจะสร้างในสมัยกษัตริย์ Balitung Maha Samba จากราชวงศ์ Sanjaya ได้รับความเสียหายมากในช่วงปี 2006 เพราะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ที่นี่
อันดับ 2 วัดร่องขุ่น (Wat Rong Khun) ประเทศไทย
วัดร่องขุ่น (Wat Rong Khun) ออกแบบและก่อสร้างโดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ซึ่งปรารถนาจะสร้างวัด ให้เหมือนเมืองสวรรค์ที่มนุษย์สัมผัสได้ เริ่มสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2540 จากเดิมมีเนื้อที่ 3 ไร่ ได้ซื้อที่ดินเพิ่มและมีผู้บริจาคคือ คุณวันชัย วิชญชาคร จนปัจจุบันมีเนื้อที่ 9 ไร่
อันดับ 6 วัดจิออนอิน Chion-in Temple เกียวโต ญี่ปุ่น
วัดจิออนอิน (Chion-in temple) พื้นที่ของวัดนั้ใหญ่โตอลังการ แทรกตัวอยู่ในเขาเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นมาก วัดนี้สร้างในปี ค.ศ. 1234 เพื่อเป็นเกียรติให้กับผู้ก่อตั้ง ศาสนาพุทธนิกายโจโด เป็นนักบวช ชื่อว่า Honen
อันดับ 5Temple of Heaven ปักกิ่ง ประเทศจีน
หอฟ้าเทียนถานเป็นสถานบวงสรวงเทพยดาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งยังคงรักษาไว้ในจีน ประกอบด้วยตําหนักฉีเหนียนเตี้ยน ตําหนักหวง ฉงอี่ และลานหยวนชิว เป็นต้น เทียนถานตั้งอยู่ทางทิศใต้ของกรุงปักกิ่ง มีเนื้อที่ทั้งหมด ๒๗๓ เฮกต้าร์ เป็นสถานซึ่งจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิงใช้เป็นที่บวงสรวงเทพยดา ในระยะย่างเข้าฤดูหนาว ถึงเดือนอ้ายตามจันทรคติทุกปี พระจักรพรรดิจะเสด็จไปประกอบ พระราชพิธีบวงสรวงที่นั่นเพื่อให้การเก็บเกี่ยวได้ผลอุดม
อันดับ 4 พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า
พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า เชื่อกันว่าเป็นมหาเจดีย์ที่บรรจุ พระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น ตามตำนาน เจดีย์ชเวดากองนั้นสร้างเมื่อง 2,500 ปีที่แล้ว แต่นักโบราณคดีเชื่อกันว่าสร้างระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 6-10 สร้างโดยชาวมอญ ตามตำนานนั้นเริ่มจากว่า มีสองพี่น้อง พ่อค้า 2 คน ได้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้ามา พระองค์จึง ประทานพระเกศามา 8 เส้น พระเจดีย์ได้ถูกทิ้งร้าง จนมาถึงคริสต์ศตวรรษที่ 14 รัชสมัยพระเจ้าพินยาอู ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระเจดีย์ใหม่สูง 18 เมตร พระเจดีย์ได้ถูกซ่อมแซมมาเรื่อยมา จนมามีความสูง 98 เมตรใน ปัจจุบัน บนยอดสุดของพระเจดีย์ มีเพชรอยู่ 5,448 เม็ด โดยเฉพาะ ชั้นข้างบนสุดมีเพชรเม็ดใหญ่อยู่ 72 กะรัต และทับทิม 2,317 เม็ด
อันดับ 3 วัดฮินดูพรัมบานัน ประเทศอินโดนีเซีย
วัดฮินดูพรัมบานัน : Prambanan Temple พรัมบานันเป็นวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินโดนีเซียหรือจะเรียกว่า ใหญ่ที่สุดในเอเซียอาคเนย์เลยก็ได้ ตั้งอยู่ที่เมืองพรัมบานัน ตอนกลางของเกาะชวา และอยู่ไม่ไกลจากยอกยากาตาร์มากนัก วัดถูกสร้างขึ้นเมื่อราวปี พ.ศ. 1340 โดยสันนิษฐานว่า น่าจะสร้างขึ้นในสมัยของกษัตริย์ Rakai Pikatan จากราชวงศ์ Mataram ที่ 2 หรืออาจะสร้างในสมัยกษัตริย์ Balitung Maha Samba จากราชวงศ์ Sanjaya ได้รับความเสียหายมากในช่วงปี 2006 เพราะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ที่นี่
อันดับ 2 วัดร่องขุ่น (Wat Rong Khun) ประเทศไทย
วัดร่องขุ่น (Wat Rong Khun) ออกแบบและก่อสร้างโดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ซึ่งปรารถนาจะสร้างวัด ให้เหมือนเมืองสวรรค์ที่มนุษย์สัมผัสได้ เริ่มสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2540 จากเดิมมีเนื้อที่ 3 ไร่ ได้ซื้อที่ดินเพิ่มและมีผู้บริจาคคือ คุณวันชัย วิชญชาคร จนปัจจุบันมีเนื้อที่ 9 ไร่
อันดับ 1 Tiger’s Nest Monastery ภูฏาน
ถือเป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุด ของภูฐาน ตั้งอยู่บนหน้าผาสูง 700 เมตร จากพื้นล่างในหุบเขาปาโร และด้วยระดับความสูง 3,120 เมตร จากระดับน้ำทะเล ฉายาว่า “รังเสือ” ของวัดนี้ ได้มาจากตำนานเก่า ที่เล่าว่า พระรินโปเช (Padmasambhava – Guru Rinpoche) ซึ่งเป็นผู้เผยแพร่นิกายมหายานในภูฐาน ได้เหาะมาที่นี่บนหลังเสือ และได้เข้าไปนั่งวิปัสสนากรรมฐานอยู่ในถ้ำ เป็นเวลาถึง 3 เดือน หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2227 จึงเริ่มมีการสร้างวัดขึ้น
ถือเป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุด ของภูฐาน ตั้งอยู่บนหน้าผาสูง 700 เมตร จากพื้นล่างในหุบเขาปาโร และด้วยระดับความสูง 3,120 เมตร จากระดับน้ำทะเล ฉายาว่า “รังเสือ” ของวัดนี้ ได้มาจากตำนานเก่า ที่เล่าว่า พระรินโปเช (Padmasambhava – Guru Rinpoche) ซึ่งเป็นผู้เผยแพร่นิกายมหายานในภูฐาน ได้เหาะมาที่นี่บนหลังเสือ และได้เข้าไปนั่งวิปัสสนากรรมฐานอยู่ในถ้ำ เป็นเวลาถึง 3 เดือน หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2227 จึงเริ่มมีการสร้างวัดขึ้น